.
.
ROBBERS
BOBBY x BI
BY : i-cee
.
.
.
ควันจางๆของบุหรี่ลอยคละคลุ้งไปในอากาศ ผมเงยหน้าและหลับตาลง
อัดควันนั่นเข้าไปเต็มปอด ผมสูบมันมาได้สักพักแล้ว จนมันหมวดมวน
เมื่อบุหรี่มวนนี้หมดประโยชน์ ผมก็จี้มันกับที่เขี่ยบุหรี่ซึ่งวางอยู่ตรงระเบียง
จากนั้นจึงเดินเข้ามาในห้อง ยืนกอดอกมองอีกคนที่กำลังเสพสมความสุขจอมปลอมอยู่
“พอได้แล้วบีไอ”
หลังจากยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ผมกระชากบีไอให้ลุกขึ้น
เขาดูหงุดหงิดอยู่พอสมควร ใครจะไม่หงุดหงิดกันล่ะ
ก็ผมไปขัดกิจกรรมที่มันเอ่อ...ไม่ค่อยจะดีต่อตัวเขาเองเท่าไหร่
“อย่ามายุ่ง”
บีไอสะบัดมือผมออก แล้วช้อนสายตามองผมนิ่ง
“นายใช้มันเยอะไป”
ผมพยายามพูดในน้ำเสียงที่ไม่ใส่อารมณ์มากที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้เรามีปากเสียงกัน
“Shut the F*ck Up”
บีไอทิ้งท้ายกับผมอย่างคมคาย
ก่อนที่จะหันไปสนใจไลน์ของผงโคเคนที่ถูกจัดเรียงอยู่บนโต๊ะ คนตรงหน้าก้มหัวลง
จากนั้นก็ค่อยๆสูดผงขาวๆไปจนหมดไลน์
บีไอสูดไปทั้งหมดเกินกว่า 5 ไลน์แล้ว
ผมไม่อยากให้เขาเสพสิ่งพวกนี้เท่าไหร่นัก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะว่าบีไอตอนเมาโคเคนน่ะ เซ็กซี่ที่สุด
ผมมองคนตรงหน้าที่ทิ้งตัวลงกับโซฟา
บีไอกำลังหลับตาพริ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับความรู้สึกที่ล่องลอยราวกับอยู่บนท้องฟ้า บีไอค่อยๆส่ายหัวไปมา เขาเงยหน้าขึ้น ขยี้หัวตัวเองเบาๆ
มือของบีไอค่อยๆไล้จากใบหน้าลงมายังต้นคอขาว เขาเค้นคลึงไปทั่วใบหน้าและต้นคอ
ปากอิ่มหลุดยิ้มออกมา ลิ้นร้อนไล่เลียไปรอบๆ ขาทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตะเกียกตะกายไปทั่วโซฟานุ่ม
ผมมองบีไอด้วยความเสน่หา
จากตอนแรกที่ยืนดูอีกคนอยู่เงียบๆ ตอนนี้ผมชักเริ่มทนไม่ไหว
จึงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอีกคน
บีไอป่ายมือไปมา
ผมค่อยๆรวบข้อมือของเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว บีไอคัดค้านอยู่นิดหน่อยในตอนแรก
แต่เมื่อผมบีบข้อมือเขาเบาๆ บีไอก็ยอมให้ผมกุมข้อมือของเขาไว้อย่างนั้น
ผมโน้มตัวลงไปทับตัวบีไอ
มืออีกข้างของผมเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างทะนุถนอม ผมไล่นิ้วไปตามโครงหน้าด้วยความอ่อนโยน
เสียงกระเส่าของอีกคน ยามพ่นคำสบถออกมาทำให้ผมแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ดวงตาของผมค่อยๆพินิจพิจารณาใบหน้าคนตรงหน้ายามหลับตา
ถึงแม้ผมจะเห็นบีไอในมุมนี้บ่อย
แต่กลับไม่เคยจะเบื่อเมื่อได้มองหน้าของเขาเลยสักนิด
ผมค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆบีไอ
จนเราหายใจรดกัน เขาคงได้กลิ่นบุหรี่ที่ผมสูบ จึงนิ่วหน้าเล็กน้อยราวกับว่ามีคนมาขัดจังหวะความสุขของเขาในตอนนี้
ผมเห็นดังนั้นจึงเลื่อนจมูกลงมายังริมฝีปากสีแดงสดของบีไอ
ผมแตะจมูกลงกับปากบีไอเบาๆ
เขาเม้มจมูกผมเข้าไปด้วย ผมเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสอ่อนนุ่มจากบีไอ
ถึงแม้มันจะไม่ได้หวือหวา แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย
เขาขบเม้มจมูกของผมแรงขึ้น จนผมรู้สึกได้ถึงแรงกัดเบาๆตรงปีกจมูกของตัวเอง
ผมค่อยๆผละออกมาจากริมฝีปากของบีไอช้าๆ
มือแกร่งของผมปล่อยข้อมือของเขาให้เป็นอิสระ บีไอป่ายมือไปมาจนหาที่ยึดเหนี่ยวได้
นั่นก็คือแผ่นหลังของผม เขาเกาะมันไว้ ลูบไล้ไปทั่ว ทำให้ตอนนี้ผมโดนอีกคนรั้งท้ายทอยลงมาใกล้ๆเขาอีกครั้ง
จนผมหายใจรดเปลือกตาที่ปิดสนิทของบีไอ
ผมบรรจงจูบลงเปลือกตาของบีไอด้วยความแผ่วเบา
จากนั้นค่อยๆละเมียดละไมชิมความหวานลงมาเรื่อยๆจนถึงริมฝีปากอิ่ม
ผมขบเม้มเบาๆเพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้เขามีอารมณ์ร่วมด้วย แล้วมันก็ได้ผล
เมื่อบีไอขบเม้มปากของผมตอบ ผมจึงเพิ่มความหนักแน่นของจูบนี้เข้าไปอีก
ลิ้นร้อนของผมสอดเข้าไปในโพรงปากของอีกคน กวาดต้อนไล้เลียไปทั่ว
มือของผมลูบไล้ไปทั่วผิวกายของบีไอ
สัมผัสร้อนๆจากผมเรียกเสียงครางกระเส่าจากอีกคนได้ดี
ระหว่างจูบของเราสองคน
ผมมักจะคิดถึงสิ่งที่ผมทำร่วมกับบีไอเสมอ เราสองคนเป็นคนเกาหลี วัยรุ่นธรรมดาๆ
ที่โดนส่งมาอยู่อเมริกา บีไอเป็นเด็กใจแตก..ไม่สิ ไม่ถึงขนาดนั้น
เรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะมีปัญหาเรื่องครอบครัว ส่วนผมก็ลูกคนรวยธรรมดา
ใช้ชีวิตปกติเที่ยวเล่นไปวันๆ
ผมเจอบีไอครั้งแรกที่ตรอกเล็กๆแห่งหนึ่งแถวที่พักของผม ตอนนั้นเป็นเวลาตี3
ผมเพิ่งกลับมาจากคลับ
ด้วยความที่ติดบุหรี่มาก จึงแวะมาอัดมันก่อนจะเข้าห้อง
ความมึนเมาบวกกับความงุนงงทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เท่าไหร่นัก
ในขณะที่ผมยืนสูบบุหรี่อยู่คนเดียว ก็มีผู้ชายคนหนึ่งสวมไอ้โม่งสีดำ
เดินเข้ามาประกบผม จนแผ่นหลังของผมชิดกำแพง พร้อมจ่อปืนเข้าที่หัว
ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจอยู่ไม่น้อย ผมยกมือขึ้นราวกับว่าจะไม่ต่อสู้อะไรทั้งสิ้น
แล้วถามอีกคนไปว่าต้องการอะไร เขาค่อยๆลดปืนลงช้าๆ
จากที่จ่อหัวผมอยู่ตอนนี้มันกลับมาจ่อที่ปากผมแทน ผมปิดปากเงียบกริบ อีกคนดูพอใจ
จึงได้กล่าวออกมา
“โคเคน”
ชายตรงหน้าพูดออกมาแต่ผมไม่ค่อยได้ยิน
จึงพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาถอดไอ้โม่งออก เขายอมบ้าจี้เปิดไอ้โม่งออก
เผยให้ผมเห็นหน้ามึนๆเซ่อๆของเขา ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของผมคือ โจรที่ไหนหน้ามึนขนาดนี้?
ไม่ได้น่ากลัวสักนิด ผมรู้สึกถูกใจคนตรงหน้าอย่างประหลาด จึงยิ้มกว้างให้เขา
แล้วขอให้เขาพูดอีกรอบ เขามองหน้าผมนิ่งๆ
“โคเคน”
ผมพยักหน้าเข้าใจ
สองมือของผมควานหาซองโคเคนทั่วกระเป๋ากางเกง แต่กลับไม่พบสักซอง
“โทษที
พอดีไม่ได้พกมา สนใจไปห้องฉันไหม?”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมชวนโจรที่ถือปืนมาจ่อหัวปล้นโคเคนกับผมเข้าห้อง
ชื่อเขาผมยังไม่รู้จักเลย ไม่รู้ว่าเขาจะฆ่าผมหมกห้องหรือเปล่า แต่ไม่รู้สิ
มันมีสิ่งหนึ่งภายใต้ดวงตาอันคมกริบของเขา ดึงดูดผมอย่างน่าประหลาด
เขายอมตกลงมาที่ห้องกับผม เขาเก็บปืนเข้ากระเป๋าเสื้อกันหนาวแล้วดึงฮู้ดปิดหัว
แล้วเดินตามผมมาเงียบๆ ผมหันไปมองเขาเป็นระยะๆ
เมื่อถึงห้อง
ผมรีบเดินไปยังลิ้นชักข้างเตียงเพื่อหาโคเคนให้อีกคน เมื่อหาเจอ
ผมยื่นซองบรรจุผงสีขาวไปให้เขา อีกคนมองหน้าผมราวกับพิจารณาอะไรบางอย่าง
จากนั้นจึงรับไปโดยดี เขาเดินไปนั่งตรงโซฟา บรรจงเทผงโคเคนลงโต๊ะหน้าโซฟา
จากนั้นค่อยๆไล้ให้เป็นไลน์ เตรียมสูดดมสิ่งบ้าๆนั่น
เพื่อจะได้สุขสมล่องลอยไปในความฝัน ผมยืนมองดูเขานิ่งๆ ไม่พูดอะไร
จนเมื่อเขากำลังจะสูดมันเข้าไป ผมจึงขัดไว้ก่อน
“ติดหรอ?”
เขาหันหน้ามามองผมนิ่งๆ แล้วพยักหน้าตอบ
“บีไอ”
อยู่ดีๆเขาก็พูดขึ้นมา ทำให้ผมเอียงคอ เขาจึงพูดขึ้นมาอีกรอบ
“ฉันชื่อบีไอ
แล้วนาย?”
ผมพยักหน้าลง ยกยิ้มไปให้
“บ๊อบบี้
ดูท่านายจะมีเรื่องเครียดนะ”
“อยู่แล้ว
ก็หลายเรื่อง”
“ถ้าไม่สบายใจเล่าให้ฟังได้นะ”
ผมพยายามผูกมิตรกับเขาให้มากที่สุด
ผมยังไม่ลืมหรอกนะที่เขามีปืนอยู่ในสเวเตอร์ตัวนั้นน่ะ
“ขอบใจ
แต่ขอจัดการกับไอ้นี่ก่อน”
บีไอชี้ไปยังโคเคนตรงหน้า
ผมพยักหน้าเข้าใจ เขาจึงก้มลงไปสูดมันจนหมดไลน์
แล้วเขาก็ค่อยๆเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ผมฟัง
จากตอนแรกที่ยืนดูอีกฝ่ายอยู่ห่างๆ กลับต้องมานั่งร่วมโซฟาเดียวกัน
แล้วคุยเป็นเพื่อนอีกคน
ผมถามเขาไปว่าเอาปืนมาจากไหน
มาปล้นคนอื่นมั่วซั่วแบบนี้ไม่กลัวบ้างหรือไง?
เขาตอบว่าซื้อมาจากเพื่อนเมื่อนานมาแล้ว ปกติไม่เคยปล้นใคร
แต่วันนี้เกิดอาการอยากโคเคนมาจริงๆ เงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ก็ใช้หมดแล้ว
เลยไร้ทางเลือก
มันก็รู้สึกดีอยู่นะ
ที่ผมเป็นเหยื่อรายแรกของเขาน่ะ
“คราวหลัง
ไม่ต้องไปปล้นใครแล้วนะ”
บีไอแค่นหัวเราะขึ้นมา
ก่อนจะพยักหน้าลงให้ผม
“ถ้าอยากมากก็มาที่นี่
แล้วปืนนี่ฉันขอเก็บไว้ นายคงไม่ต้องใช้มันอีกต่อไป”
ผมค่อยๆเขยิบไปใกล้ๆอีกคน
ระยะห่างของเราสองคนลดลงจนมันไม่เหลือ ดวงตาของบีไอยามมองผมด้วยสายตาสงสัย ช่างเย้ายวนใจผมเหลือเกิน
ตาลอยๆของอีกคนหลังเสพโคเคนเข้าไปทำให้อารมณ์ผมพลุ่งพล่าน ผมโน้มหน้าเข้าไปหาบีไอจนเราหายใจรดกัน
ผมจูบริมฝีปากของบีไอ ความอ่อนนุ่มและหอมหวานทำให้ผมรู้สึกแปลกใหม่
ผมขบเม้มริมฝีปากอีกคนจนบวมเจ่อ
บีไอ ไม่ได้ขัดขืนอะไร
เขาเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของผม คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ของผม
และฤทธิ์โคเคนของเขา ทำให้พวกเราทำอะไรเกินเลยมากกว่านั้นจนถึงเช้า
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นเสมอมา จนวันนี้
ผมรู้จักกับบีไอเกิน3ปีแล้ว...
หากใครจะว่าผมบ้า หรือประสาท ก็คงจะจริง
บางทีมันอาจจะเป็นโชคชะตา ที่ทำให้ผมกับบีไอมาเจอกัน
ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมกับบีไอใช่ความรักรึเปล่า แต่พูดได้คำเดียวว่าเขาเป็นเหมือนบุหรี่ที่ผมขาดมันไม่ได้
ส่วนผมก็เป็นเหมือนกับ โคเคนที่เขาขาดมันไม่ได้เหมือนกัน
ค่ำคืนนี้ยังคงดำเนินต่อไป
ความหอมหวานของบีไอ เหมือนสารเสพติดสำหรับผม ยิ่งลิ้มลองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องการมันมากเท่านั้นไม่จบสิ้น
ผมคงขาดมันไม่ได้จริงๆ
สารเสพติดตัวนี้มันขโมยหัวใจผมไปตั้งแต่วันที่เขาถือปืนมาจ่อหัวผมในตรอกเล็กๆนั่นแล้วล่ะ
END.
More About Writer :
twitter :
For Comments
Tag :