2560-10-27

[OS] overthinking #markhyuck

                    

Overthinking










bg song:


overthinking - offonoff


https://youtu.be/FxBH9YYkeEE










mark x haechan










#overthinkingmh

https://mobile.twitter.com/search?q=%23overthinkingmh&src=typed_query





























My overthinking over and over


















“วันนี้ไม่กลับคอนโดนะมาร์ค”






“อืม”






ปึง!






อีกแล้ว?






มาร์คมองแผ่นหลังคนที่เพิ่งลงจากรถไปจนพ้นสายตา เขาถอนหายใจออกมาแล้วออกรถ







ลี แฮชาน คนที่เพิ่งเปิดประตูลงจากรถเขาไปเมื่อครู่ ชายหนุ่มที่เป็นแฟน? จะว่าแบบนั้นคงน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับความรู้สึกที่เขามีให้อีกคน และที่เรามีให้กัน— เราคบกันได้ประมาณ7ปี ถ้าจำไม่ผิด นานจนแทบลืมไปแล้วล่ะ ว่าเราคบกันได้ยังไง อาจจะเป็นช่วงมัธยมปลาย? ไม่สิหรือขึ้นมหาลัย มาร์คก็จำไม่ได้เหมือนกัน—แค่เรายังอยู่ด้วยกันในตอนนี้ก็พอ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไหร่นัก










มีคนบอกว่ามาร์คเป็นคนน่าเบื่อ เพื่อนน้อย อยู่ด้วยแล้วหงุดหงิด—แหงล่ะ เขามันคนน่าเบื่อ เพื่อนเยอะสิถึงแปลก— คนนั้นก็ไม่ใช่ใคร แฮชานเองนั่นแหละ แต่เอาเถอะ มาร์คที่น่าเบื่อคนนี้ไม่เห็นจะรู้สึกว่าโลกของตัวเองมันน่าเบื่อตรงไหน เพราะมาร์คมีแฮชานอยู่ข้างๆไง




วันนี้มาร์คมาส่งแฮชานที่คาเฟ่— ใช่ แฮชานเปิดร้านกาแฟเล็กๆที่มีมุมอ่านหนังสือ อีกคนตั้งใจกับคาเฟ่นี้มาก ทุ่มไปมากจริงๆ ส่วนมาร์คน่ะหุ้นส่วนรายใหญ่เลยแหละ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มาเฝ้าร้านทุกวัน เพราะติดงานที่บริษัทของเขาน่ะ— ซึ่งปกติแฮชานจะกลับมานอนที่คอนโดของเรา แต่เขาไม่กลับมานอนมาสักพักแล้ว หมายถึงถ้าไม่รวมเมื่อวานที่เขากลับมาเอาเสื้อผ้าอีกรอบ ก่อนที่วันนี้จะบอกว่าไม่กลับมานอนอีกตามเคย










มาร์คไม่ชินเลย การที่กลับคอนโดไปแล้วไม่เจอหน้าแฮชาน มันทำให้เขารู้สึกค่อนข้างเสียหลัก เหมือนโลกว่างเปล่าเลยล่ะ— เขาไม่ถามอีกคนหรอก ว่าทำไมไม่กลับมานอนด้วยกัน เขาแค่เดา ว่าแฮชานคงเบื่อ— เบื่อคนน่าเบื่อแบบเขาแล้ว










And so the night passes by again

there’s nowhere to escape to it’s so lonely everyone’s lonely
although it looks like I’m used to spending my days
it’s still awkward
there are a lot of people I want to hold
so I have to become stronger
I don’t know how I should do it
meanwhile the day broke









มาร์คพยายามไม่งี่เง่า แต่เขาคิดไม่ตกทุกคืน การนอนคนเดียวมันโคตรแย่ ไม่ดีเลยสักนิด — แฮชานนอนหลับโดยที่ไม่มีเขาอยู่ข้างๆได้ยังไง เขายังหลับไม่ลงเลยสักคืน






















เป็นอีกวันที่เขาต้องมาทำงานที่บริษัท วันนี้เขาเข้ามาเซ็นต์เอกสารนิดหน่อย กะว่าเคลียร์เอกสารเสร็จจะไปนั่งเล่นที่คาเฟ่ เพื่อใช้เวลาอยู่กับแฮชาน— ใช่ มาร์คคิดถึง แม้เมื่อวานเราจะไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก เพราะมาร์คเหนื่อยเกินกว่าจะงี่เง่า แฮชานก็ไม่คิดจะพูดอะไรเพราะเห็นว่ามาร์คอ่อนล้าเกินไป














เอาล่ะ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างเขากับแฮชาน เขาจะลองทำอะไรที่มันดู เลี่ยนๆ? แบบที่เขาทำไม่บ่อยนักก็แล้วกัน เหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆน่ะ











“อะ มาร์คให้ สุขสันต์วันครบรอบ6เดือนนะ”









มาร์คยื่นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลหน้าตาโง่ๆให้อีกคน แฮชานยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรับมันมาแล้วบีบแก้มมาร์คอย่างหมั่นเขี้ยว







“ขอบใจ มันหน้าโง่เหมือนมาร์คเลย”







แฮชานชี้ที่หมีก่อนจะชี้มายังตัวเขา นั่นเป็นของขวัญวันครบรอบครั้งแรกที่เขาให้แฮชาน ก่อนหน้านี้มันไม่มีอะไรแบบนี้หรอก เพราะเขาไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก










“เลขาคิมครับ รบกวนสั่งดอกไม้ให้ผมหน่อย”






“ได้ครับ แล้วบอสต้องการดอกไม้อะไรครับ?”










เอาล่ะ จากการที่ผมนั่งกูเกิ้ลความหมายของดอกไม้มาสักพักก่อนหน้านี้เนี่ย ผมเลือกดอกนี้ละกัน










“ผมขอเป็น ดอกคาร์เนชั่นสีขาว ครับ”











a white carnation symbolizes innocence and pure love.









มาร์คอยากให้แฮชานรู้นะ ว่าความรักของมาร์คที่มีให้แฮชาน มันยังไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เหมือนวันแรกที่เราคบกัน















“ยินดีต้อนรับครับ”


เสียงพนักงานประจำเคาท์เตอร์อย่างจีซองดังขึ้นในทันทีที่มาร์คเปิดประตูเข้าไป









“อ้าว พี่มาร์คหวัดดีครับ”


เมื่ออีกคนเห็นว่าเป็นผม จึงโค้งหัวทักทาย ผมพยักหน้าให้แล้วมองไปรอบๆร้าน







วันนี้คนค่อนข้างบางตา อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เพิ่งพ้นช่วงพักเที่ยงไป คนเลยไม่ค่อยเยอะ







“พี่แฮชทำเค้กอยู่ในครัวครับ”


เหมือนจีซองจะรู้ว่าผมกำลังมองหาใคร ผมยิ้มตอบให้น้องมัน ก่อนจะหอบช่อดอกไม้เดินเข้าไปยังครัวหลังร้าน











“โน่อย่ากวนดิ้ เค้กเลอะหมดแล้วเห็นมั้ย?”







ทันทีที่ผมเปิดประตูครัวเข้าไป ผมก็พบกับแฮชานที่กำลังบีบครีมแต่งหน้าเค้กโดยมีชายร่างโปร่งตายิ้มข้างกายที่กำลังจี้เอวอีกคนอยู่







อ่า แบบนี้เองสินะ...









“อ้าว มาร์ค”





เป็นแฮชานที่ละสายตาจากเค้กตรงหน้า หันมามองผม อีกคนดูแปลกใจที่ผมมาหาเขาตอนนี้







“อ้าว มาร์ค หวัดดี”


เจโน่ยิ้มทักทายผม









“ดี”





ผมยิ้มแห้งๆส่งไปให้ทั้งคู่ ความรู้สึกผมตอนนี้มันโคตรสับสน ทำไมเจโน่มาอยู่กับแฮชาน ทำไมท่าทางดูสนิทกันเกินไป ทำไมแฮชานดูสบายใจเมื่ออยู่กับอีกคน?







“วันนี้งานที่บริษัทไม่เยอะหรอ?”


แฮชานวางอุปกรณ์แต่งหน้าเค้กลง เขาเช็ดมือกับผ้าก่อนจะเดินเข้ามาหาผม







“ไม่ค่อยยุ่งน่ะ”


ผมยิ้มส่งไปให้เขา เจโน่ที่มองเราสองคนอยู่ตรงโต๊ะวางเค้กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ทำให้ผมกลับมาสนใจแฮชานต่อ







“แล้วนี่อะไรอะ?”


แฮชานชี้ไปยังช่อดอกคาร์เนชั่นสีขาวในมือของผม







“อะ มาร์คให้”


ผมยื่นมันให้แฮชาน อีกคนขมวดคิ้ว สีหน้าดูสงสัยแต่ก็รับมันมาถือแต่โดยดี







“ไข้ขึ้นป้ะเนี่ย?”


แฮชานยื่นมือมาแตะหน้าผากเพื่อทำทีเป็นวัดไข้ ก่อนจะเลื่อนมือลงมาบีบแก้มผมอย่างอ่อนโยน ผมจึงเลื่อนมือขึ้นมาวางทับมืออีกคนไว้







“มาร์คคิดถึงแฮชานนะ”









ผมส่งสายตาตัดพ้อไปให้แฮชาน แววตาอีกคนดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด แฮชานเลือกที่จะวางช่อดอกคาร์เนชั่นสีขาวไว้ตรงโต๊ะข้างๆตัว ก่อนจะโอบกอดผมเอาไว้







“อื้อ เค้าคิดถึงก็มาร์คนะ”






“...”






ผมกอดตอบอีกคน ไออุ่นที่คุ้นเคยจากอ้อมกอดของแฮชาน กำลังทำให้ผมลืมความสงสัยแคลงใจก่อนหน้านี้ไปจนหมด ผมคิดถึงแฮชานเหลือเกิน






“เค้าขอโทษ ที่ไม่ค่อยได้กลับไปนอนคอนโดเลย..”






“ไปไหนมา?”






ผมถามเสียงอ่อน อีกคนผละจากอ้อมกอดก่อนจะมองหน้าผม







“เค้าไปนอนบ้านเจโน่มา”


แฮชานชี้ไปทางคนที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโต๊ะวางเค้ก เจโน่มองมาที่เขาและแฮชาน ก่อนจะพยักหน้าลง






“มันมานอนกับเราเองแหละมาร์ค ไม่ต้องห่วง”






ไม่ต้องห่วง? บ้าหน่าเจโน่ แฮชานเป็นแฟนเขานะ






มาร์คอยากถามแฮชานมากกว่านี้ ติดตรงที่ เขาไม่รู้จะเอ่ยออกไปอย่างไร ความรู้สึกมันหน่วงในอกยังไงก็ไม่รู้







“เดี๋ยวคืนนี้มาร์คไปบ้านเจโน่ด้วยกันนะ”







“หืม?”


เขาขมวดคิ้ว ทำไมเขาต้องไปบ้านเจโน่?






“เค้าลืมบอกไป ว่าที่เค้าต้องไปนอนบ้านเจโน่เนี่ย เพราะแจมินอกหัก”






มาร์คงงกว่าเดิม







“แจมินเพิ่งเลิกกับพี่จองอู อาการสาหัสเลยมานอนกับเจโน่ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วน่ะ”







อ๋อ มาร์คเข้าใจแล้ว






“เค้าขอโทษ ที่ไม่ได้บอกมาร์ค เห็นมาร์คเหนื่อย เลยไม่อยากให้มาร์ครับรู้อะไรที่เหนื่อยใจไปด้วย”







แฮชานไม่รู้เลยหรอ ว่าการทีอีกคนทำแบบนี้


เขาเหนื่อยกว่าการรับรู้เรื่องนี้กว่าร้อยเท่า









“อย่าทำแบบนี้อีกได้มั้ย? มาร์คเหนื่อยใจกว่าเดิมอีก”









มาร์คเลือกที่จะไล้นิ้วข้างแก้มแฮชาน อีกคนพยักหน้าก่อนจะยู่ปากลง







“เค้าขอโทษ เค้าเห็นว่ามาร์คเงียบๆดูเหนื่อยๆ เค้าเลยไม่อยากพูด เค้ายอมรับว่าไม่อยากคุยกับมาร์คเลยอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะเค้างี่เง่าเองแหละ”





แฮชานก้มหน้างุดมุดอกเขาอย่างออดอ้อน เขาคลี่ยิ้มออกมา







เห็นไหมว่าแฮชานเบื่อมาร์ค ถ้าเขาไม่คิดจะถามอะไรอีกคน เขาคงกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ๆ






เกือบไปแล้วมั้ยล่ะมาร์ค







“มีอะไรก็บอกมาร์ค เราอยู่กันมา7ปีแล้ว แฮชานยังดื้อเงียบไม่เปลี่ยนเลยนะ”







“เค้าขอโทษ”







“อะๆ สวีทกันพอยัง เค้กนี่ก็รีบๆมาทำให้เสร็จ เดี๋ยวไอเด็กงี่เง่าแจมินมันเลิกงานแล้วไม่ได้กินเค้กฝีมือนายจะแย่เอา”





เป็นเจโน่ที่พูดขึ้นมา แฮชานผละออกจากมาร์คก่อนจะหันไปแลบลิ้นให้เจโน่ ความจริงมันไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ แฮชานกับเจโน่เป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม ส่วนมาร์คก็ยังหลายเป็นคนน่าเบื่อที่คิดมากเหมือนเดิม







มาร์คได้แต่ยิ้มเยาะให้กับความคิดมากของตัวเองและความงี่เง่าของแฮชาน













อย่าให้มันเป็นแบบนี้อีกเลย









เกือบไปแล้วสินะมาร์ค











My overthinking over and over


My overthinking over and over













ทำไมเป็นฟิคที่ไม่มีอะไรเลยอะ555555มาร์คอะคนคิดมาก:(










พูดคุยกันได้ที่แท็ก #overthinkingmh นะคะ <3