2559-03-12

[OS] LET’s NOT FALL IN LOVE B.I x BOBBY

[OS] LET’s NOT FALL IN LOVE

B.I x BOBBY

BY : i-cee








ฮันบิน! รอด้วยดิ
     เสียงของจีวอนดังขึ้นข้างหลังของผม ทำให้ผมต้องหยุดเดินและหันกลับไปมอง



จะตามมาทำไม?
  ผมมองอีกคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เขาคงรู้ว่าผมไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก เลยเกาหัวแก้เก้อ



ก็...จะมาช่วยถือของอ่ะ ไม่หนักหรือไง?
  จีวอนชี้มายังถุงผ้าที่ผมไว้ใส่หนังสือกลับไปอ่านที่บ้านใบโตในมือของผม




ไม่ล่ะ
  ผมหันหลังกลับเตรียมจะเดินต่อ แต่อีกคนดันมาแย่งถุงผ้าใบโตของผมไปถือเองซะงั้น มันทำให้ผมต้องหยุดเดินและหันหน้าไปมองเขาอีกรอบ



จะมากวนอะไรอีก?
  หลายวันมานี้ จีวอน เพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกัน ที่ผมไม่สนิทเท่าไหร่นัก มายุ่งวุ่นวายกับผมบ่อยมาก ชอบมาแกล้ง ขยี้หัว ช่วยถือของ เอานั่นเอานี่มาให้ดูบ่อยๆ แถมยัง...ทักไลน์มาทุกคืนและชวนคุยจนผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ





ไม่ได้มากวนสักหน่อย จะมาช่วยถือของ
  จีวอนยิ้มร่าและเดินนำผมไปหน้าตาเฉย ทำให้ผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตามเขาไป




นายกลับบ้านยังไงหรอ?


นั่งบัสกลับเองอ่ะ



ไปส่งไหม?


ไม่ต้อง




   พอผมเดินต่อ จีวอนก็เดินขนาบข้างมาด้วยกัน ผมไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคนข้างๆคงไปรอบัสเหมือนกัน





  เมื่อมาถึงป้ายจอดบัส ผมยืนรอบัสเป็นปกติ กว่าบัสจะมาใช้เวลาประมาณ10นาที ผมจึงหยิบสมาร์ทโฟนออกมาเล่น เช็คนั่นนี่ไปเรื่อย





  ในขณะที่ผมกำลังวุ่นวายอยู่กับสมาร์ทโฟนของตัวเอง จู่ๆก็มีวัตถุบางอย่างกระทบรูหูของผม พอผมหันไปมอง ก็พบว่าจีวอนนำหูฟังข้างหนึ่งของเขา  มาเสียบหูของผมเป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นว่าเราสองคนฟังหูฟังกันคนละข้างอยู่





  ผมเลิกคิ้วขึ้น เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่าย ก่อนเสียงเพลงๆหนึ่งดังขึ้น






Ya ready uh
Da da da da da dalat da da na
Dat da na แว อีรอลกา นัน โอนึลตารา
ทำไมวันนี้ฉันถึงเป็นแบบนี้เนี่ย






  ระหว่างฟังเพลงอีกฝ่ายเอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่ม สบตาผมครู่หนี่ง ก่อนจะมองไปทางอื่น




อิกซุกคัน ซือคินชวินเบโด ชิมจังงี ตวีโก
ถึงจะเป็นการสกินชิพที่คุ้นเคยดี แต่ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรง
ชินกยอง ซือยอ แควนนี นอเอ นุนชีรึล โพเก ทแว
ฉันก็มองตาเธอตามปกตินะ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันดูน่าสนใจ



  เมื่อผมประมวลผลเนื้อเพลงดังกล่าวแล้ว ผมว่ามันดูทะแม่งๆ ประจวบกับบัสที่ผมนั่งกลับบ้านทุกวันกำลังจะมาจอดเทียบท่า ผมจึงหยิบหูฟังออกจากหู ก่อนจะดึงกระเป๋าจากมืออีกฝ่ายมาถือ




บัสฉันมาแล้ว กลับก่อนนะ





  ผมโบกมือลาตามมารยาท ก่อนจะหันหลังขึ้นบัสไป เมื่อผมได้ที่นั่งในบัส ตาเจ้ากรรมก็อดที่จะหันไปมองจีวอนที่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้





  อีกคนเมื่อเห็นผมมองอยู่ เจ้าตัวก็รีบยกมือบ้ายบายผม และส่งยิ้มจริงใจอย่างที่ชอบทำมาให้ ผมจึงยิ้มแห้งๆไปให้ ก่อนจะหันหน้าหนีอีกคน




  เมื่อบัสออกจากท่า ผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

เห้อออออออออออออออออออออออ






  ทำไมจู่ๆ จีวอนถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้?







  เปลี่ยนไป จนผมกลัวใจตัวเอง



กลัวจะไปหวั่นไหว ให้กับผู้ชายขี้เล่นอย่าง คิมจีวอน




กลัวว่าความรู้สึกของผมมันจะพังเหมือนที่ผ่านมา..






  หลังจากเหตุการณ์วันนั้น กลายเป็นว่าจีอนมาส่งผมขึ้นบัสทุกวัน แถมยังทักไลน์มาไม่เลิก ผมและจีวอนคอลไลน์กันทุกวัน หากจีวอนมีเรื่องอะไร ก็มักเล่าให้ผมฟัง ส่วนผม ถ้าไปเจออะไรน่าตลกมา ผมก็จะเล่าให้อีกฝ่ายฟังเช่นกัน





  ความสัมพันธ์ของเรา มันก็เป็นอย่างนี้มาสักพักแล้ว จีวอนยังคงแกล้งผมไม่เปลี่ยน เราดูสนิทกันมากขึ้น จนเพื่อนสนิทของผม จุนฮเว บอกว่าหลังๆมานี้ผมกับจีวอนดูแปลกๆ เพราะเราสนิทกันขึ้นมากเกินไป จนจุนฮเวอดสงสัยไม่ได้





ฮันบิน สรุปนายกับจีวอนนี่ยังไง?” 



จุนฮเวถามขึ้นหลังจากที่พวกเรากำลังเก็บของบนโต๊ะเรียน ที่จุนฮเวถามก็คงเพราะเมื่อกี้ จีวอนเดินมาบอกผมว่าวันนี้ไม่ได้เดินไปส่ง เพราะตนติดเล่นบาสกับเพื่อนต่อที่โรงเรียน ผมพยักหน้าและส่งยิ้มไปให้ แล้วจีวอนก็เดินไป ผมมองตามอีกคนจนหลังแกร่งนั่นออกจากห้องไป จากนั้นจึงเก็บของต่อ




ก็ไม่ยังไงนี่"



เมื่อเก็บของทั้งหมดเสร็จผมก็หันมาเผชิญหน้าจุนฮเว





แน่ใจ?



จุนฮเวเลิกคิ้วใส่ผม




อื้ออออออ ไม่เชื่อใจกัน?



ผมถามลองเชิง จุนฮเวส่ายหน้าเนือยๆ

ก็หมอนั่นรุกจีบนายขนาดนั้น แถมช่วงนี้ยังดูสนิทกันแปลกๆ จะไม่ให้ฉันสงสัยได้ไง?” 



เมื่อพูดจบจุนฮเวก็เดินนำออกจากห้อง ผมจึงเดินตามอีกคนไป



ไม่มีอะไรหรอกน่า 




ผมเดินมาขนาบข้างจุนฮเว จุนฮเวหยุดเดินแล้วพาดแขนมายังไหล่ผม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง จนผมอดหวั่นไม่ได้

ฉันแค่อยากจะเตือนนายไว้ ว่าจีวอนมันร้าย มันเจ้าชู้จะตาย หญิงในสต็อกมันเยอะมากด้วย ฉันไม่อยากให้นายหลงกลมัน ฉันไม่อยากให้เพื่อนฉันเจ็บเพราะใครอีกแค่นั้น 




ผมหน้าเสีย ก่อนจะแสร้งยิ้มออกมาเป็นปกติไปให้อีกคน



ไม่ต้องห่วงน่า ฉันไม่หลงกลจีวอนหรอก วางใจได้ ฉันไม่โง่พอที่จะเอาตัวเองไปเจ็บแล้วล่ะ




จุนฮเวหยักหน้าส่งๆ ก่อนจะลากคอผมเดินต่อ เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียน จุนฮเวก็ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ เราบอกลากันตรงนั้น เพราะจุนฮเวกลับคนละทางกับผม





  วันนี้เป็นวันที่ผมเดินกลับบ้านคนเดียวเป็นวันแรก หลังจากเกือบ2อาทิตย์ที่ผ่านมา จีวอนจะเดินมาส่งผมทุกวัน
  มันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เหมือนกับขาดอะไรไปบางอย่าง





      ผมเดินทอดน่องไปเรื่อย พลางคิดถึงคำพูดของจุนฮเวที่ว่า จีวอนเป็นคนเจ้าชู้ ความจริงผมก็พอรู้มาบ้างว่าจีวอนเฟรนด์ลี่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ตลอดเวลาที่คุยกันผมไม่เคยเช็คโซเชี่ยลของจีวอนเลย แต่ตอนนี้ผมกำลังเข้าไปดูในทุกๆโซเชี่ยลของจีวอน ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไง ผลก็คือ มีคนมากมายที่ชื่นชอบจีวอน ส่วนใหญ่จะเป็นสาวๆอย่างที่จุนฮเวว่า จีวอนดูเป็นคนอัธยาศัยดีในระดับหนึ่ง เมื่อผมรับรู้เรื่องพวกนี้แล้ว ก็กดล็อคโทรศัพท์และใส่มันลงไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยืนรอบัสที่เดิม






    ผมคิดว่า อีกฝ่ายคงไม่ได้ทำแบบนี้กับผมแค่คนเดียว และจีวอน เหมือนกับ เขาเกินไป ทำให้ผมไม่วางใจอะไรทั้งสิ้น ผมไม่อยากเจ็บเพราะการกระทำของใครอีกแล้ว และที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมก็คิดว่ามันดีอยู่แล้ว  ดังนั้นผมไม่ควรเรียกร้องอะไรจากเขา เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น ผมก็แค่ไม่ควรคิดลึกอะไรกับผู้ชายแบบจีวอนแค่นั้น







    ในขณะที่ผมกำลังจะเดินก้าวขึ้นบัส จู่ๆก็มีคนเรียกชื่อผม ขาของผมชะงัก และหันหลังกลับไปมอง ก็พบว่าจีวอนที่อยู่ในท่าทางเหนื่อยหอบ เป็นคนเรียกผมไว้ ผมตัดสินใจเดินมาหาจีวอน เจ้าตัวหายใจหอบใหญ่ ก่อนจะส่งยิ้มโง่ๆอย่างที่ชอบทำมาให้ผม







  ไปทำอะไรมา ทำไมดูเหนื่อยขนาดนั้น?” 


ผมถามด้วยความสงสัย



กะ..ก็ เล่นบาสมาไง แล้วก็วิ่งมาหานายน่ะ แหะๆ



จีวอนเกาหัวแก้เก้อ ก่อนจะเสมองไปทางอื่น





แล้วมีอะไรล่ะ? นายรู้ไหมว่านายทำฉันพลาดบัสไปแล้วน่ะ




ผมยู่ปากลงและมองจีวอนอย่างคาดโทษ





ก็ จะชวนไปที่ๆนึงเฉยๆ ไปไหม? 





จีวอนมองผมอย่างลุ้นๆ





ก็ได้ แต่รีบกลับนะ 




จีวอนยิ้มร่าออกมา ก่อนจะแย่งกระเป๋าผมไปถือ และเดินนำผมไป




   ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินตามอีกคนมา เมื่อเดินมาเรื่อยๆ ก็พบว่า จีวอนพาผมมาลานจอดรถแถวโรงเรียน ผมเลิกคิ้วขึ้น เมื่ออีกคนหยุดลงตรงหน้ารถสปอร์ตคันหนึ่ง





นายพาฉันมาที่นี่เพื่อ?





   จีวอนไม่ตอบ เขาเปิดรถและวางกระเป๋าผมลงเบาะข้างคนขับ  ก่อนจะปิดประตูลง เดินมาจับแขนผม และลากมาฝั่งหลังรถของจีวอน





ไม่เคยจะบอกเลยนะว่าขับรถมาโรงเรียน” 



ผมก็เพิ่งรู้ว่าจีวอนมีรถ และขับมาโรงเรียนก็ตอนนี้ จู่ๆคำพูดของจุนฮเวก็ดังเข้ามาในโสตประสาทของผมเสียได้





จีวอนมันร้าย มันเจ้าชู้จะตาย หญิงในสต็อกมันเยอะมากด้วย ฉันไม่อยากให้นายหลงกลมัน






    ตอนนี้ผมได้แต่คิดว่า ที่จีวอนไม่เคยบอกเรื่องรถ เพราะไม่อยากให้ผมขึ้นรถรึเปล่า มีรถไว้ส่งสาวอื่นที่บ้านรึเปล่า ความคิดมากมายเข้ามาอยู่ในหัวสมองของผม เมื่อจีวอนเห็นผมเงียบไปนาน เจ้าตัวก็โบกมือไปมาตรงหน้าผม ผมสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง ก่อนจะมาสนใจคนตรงหน้าแทน





 ฮันบิน นายฟังฉันอยู่รึเปล่า?


จีวอนเอียงคอถาม





อื้อ..เมื่อกี้ว่าไงนะ?






ก็บอกว่า โทษที ที่ไม่ได้บอก 

จีวอนเกาหัวแก้เก้อ





ช่างเหอะ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องบอกนี่ แล้วนี่มีอะไร พาฉันมาที่นี่เพื่อ? 


ผมกอดอกถามจีวอน มันติดเป็นนิสัยไปแล้ว หากผมไม่พอใจอะไร ผมจะแสดงออกโดยการกอดอก และทำหน้านิ่ง ผมว่าจีวอนดูออก เพราะสีหน้าอีกคนดูหม่นลงไป



กะ..ก็แค่มีอะไรจะให้แล้วก็มีอะไรจะบอก

จีวอนเอ่ยเสียงเบา ผมพยักหน้าเป็นเชิงว่า ก็บอกมาสิ เจ้าตัวไม่ตอบ แต่เดินไปเปิดหลังรถแทน







  ผมมองตามจีวอน คิดไม่ออกเลยทีเดียวว่าจีวอนกำลังจะทำอะไร แต่แล้วความสงสัยของผมก็หายวับไปกับตา เมื่อทันทีที่จีวอนเปิดหลังรถออกมา ลูกโป่งแฟนซีสีสวยจำนวนมากก็โผล่ออกมาด้วย ผมชะงัก แล้วอ่านข้อความในลูกโป่งพวกนั้น ก่อนหัวใจจะเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ จีวอนเดินไปหยิบของบริเวณเบาะคนขับ  และกลับมาพร้อมช่อดอกกุหลาบสีขาว เจ้าตัวยื่นให้ผมอย่างเก้ๆกังๆ  ผมรับมันมา และเอียงคอด้วยความสงสัย






ตกลงไหม?จีวอนถามออกมาเสียงเบา




ตกลงอะไร?





ก็นี่ไง 


จีวอนชี้ไปทางลูกโป่งพวกนั้น ผมมองตาม และสับสนในใจ ก็ข้อความบนลูกโป่งน่ะเขียนว่า
 เป็นแฟนกันไหม? จะไม่ให้ผมใจเต้นได้ยังไงกัน





เอ่อ...คือ..ฉัน


ผมอึกอักพูดอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจีวอนจะทำอะไรให้ผมแบบนี้ แต่ผมก็ยังไม่วางใจอีกคนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมยังมีความกลัวที่จะเจ็บอยู่มาก  ตอนนี้ผมไม่อยากคบกับใคร ผมว่าการที่ผมกับจีวอนเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ถ้าคบกัน มันก็เจ็บอีก แต่ผมก็ไม่รู้จะบอกอีกฝ่ายยังไงดี







หรือว่า..นายยังไม่พร้อม?


สีหน้าจีวอนดูหม่นลงนิดๆ ผมยังคงอึกอักอยู่อย่างนั้น ก่อนที่จะรวบรวมความกล้าบอกคนตรงหน้าออกไป






คือว่า..ฉันว่า..เราเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว คบกันไป อะไรๆมันอาจแย่ลงก็ได้นะ..

จีวอนเสียอย่างเห็นได้ชัด จนผมอดรู้สึกผิดไม่ได้ เขาแค่นหัวเราะออกมาแล้วบ่นเบาๆ






ฉันนี่มันโง่จริงๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออก ว่านายไม่มีใจให้ตั้งแต่แรก เหอะ...ยังลงทุนทำอะไรโง่ๆแบบนี้อีก เหอะ... 
จีวอนส่ายหน้าเบาๆ ผมรู้สึกผิด จึงยื่นมือไปกุมมือจีวอนไว้ และบีบเพื่อให้กำลังใจ




ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่...ฉันแค่ไม่อยากคบกับนาย เพราะฉันเห็นว่า ที่เราเป็นอยู่น่ะดีแล้ว ถ้าคบกันก็ต้องเลิก แล้วเราจะคบกันทำไมล่ะ.. 




ผมบอกให้จีวอนเข้าใจได้ชัดขึ้น อีกคนดึงมือของตัวเองกลับและมาวางบ่นไหล่ของผมแทน ตาตี่ๆจ้องตาผมไม่ละไปไหน





พูดแบบนี้ แสดงว่านายไม่เชื่อใจฉันหรอ? 
จีวอนมองลึกลงมาในตาของผม จนผมต้องหลบตา









นั่นไง นายไม่เชื่อใจฉันจริงๆด้วย ก็อย่างที่เขาว่ากัน จีวอนคนนี้มันเจ้าชู้ คิดจะหยุดที่ใครไม่ได้หรอก เหอะ..


จีวอนเสมองไปทางอื่น มือแกร่งปล่อยไหล่ผมไปแล้ว ผมอยากให้เขาเชื่อใจผม จึงยื่นมือไปกุมมือเขาอีกครั้ง จีวอนหันมามองผม






ฉันแค่ อยากให้นายเชื่อว่าฉันหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ฉันแค่เคยเจ็บมาเพราะคนๆนึง เลยไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นอีก เราเป็นแบบนี้ ก็ดีอยู่แล้วนะจีวอน...นะ 

ผมมองหน้าเขาและใช้คำพูดอ้อนวอน จีวอนมีแววตาวูบไหวไปกับคำพูดของผม เจ้าตัวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มโง่ๆอย่างที่ชอบทำมาให้ผม





อื้อ..ฉันจะเชื่อนาย เราเป็นอย่างนี้ดีแล้วแหละ ฉันจะได้พิสูจน์ตัวเองให้นายและคนอื่นๆเห็นด้วย ว่าฉันน่ะเลิกเจ้าชู้ได้เหมือนกัน ไปหาไรกินกันเถอะ ฉันหิวแล้ว

จีวอนดึงมือผมออกและกอดคอผมไว้แทน เจ้าตัวลากผมมานั่งฝั่งข้างคนขับ และเดินกลับไปเก็บลูกโป่งข้างหลังรถ ก่อนจะมาประจำที่คนขับ




  ช่อดอกกุหลาบสีขาวยังอยู่บนตักของผม ผมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปมันไว้ และไม่ลืมที่จะแอบถ่ายรูปคนขับรถไว้ด้วย เมื่ออีกฝ่ายจับได้ว่าผมแอบถ่ายรูปของตน ก็หันมายิ้มโง่ๆใส่กล้อง แถมยังเอามือมากุมมือผม และดึงมือผมมาจุมพิตเบาๆ ผมกดชัตเตอร์ทันตอนที่อีกฝ่ายจุมพิตมือผมพอดี ใจสั่นอยู่ไม่น้อย ผมจึงแก้เขินโดยการชักมือกลับ และเปิดวิทยุบนรถของจีวอน




   เมื่อท่วงทำนองเพลงหนึ่งดังขึ้น ประจวบกับรถของจีวอนติดไฟแดงพอดี อีกฝ่ายจึงหันหน้ามาสบตากับผม ผมยื่นมือไปกุมมือจีวอน พลางส่งสายตาสื่อความหมายเพลงๆนี้ไปให้




อูรี ซารังฮาจี มัลราโย
อย่าเพิ่งตกหลุมรักกันเลยนะ
อาชิกกึน ชัล โมรือชันนาโย
ตอนนี้เรายังไม่รู้จักกันดีพอ
ซาชิล โชกึมมึน ดูรยออุน กอยา
ที่จริงแล้วผมกำลังกลัว
กือแด มีอันแฮโย
ขอโทษนะ
  อูรี ยักซกฮาชี มัลราโย
อย่าเพิ่งสัญญาอะไรกันเลย
แนอิลรึล โต โมรือชันนาโย
เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร
ฮาชีมันนี มัล มันนึน ชินซิมมียา
แต่ผมหมายถึงมันจริงๆนะ ตอนที่พูดว่า
กือแด โชวาแฮโย
ผมชอบคุณ





...ผมไม่รู้ว่า เราจะอยู่กันอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ผมก็มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผมรู้สึกดีกับจีวอนจริงๆ ผมไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสขยับความสัมพันธ์ไปเป็นมากกว่านี้ได้รึเปล่า แต่ตอนนี้ผมยังยืนยันคำเดิมว่า เราอย่าเพิ่งตกหลุมรักกันเลยนะ




END. (ดีไหม)